สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่ประกอบกิจการในประเทศอื่นรวมทั้งในประเทศไทย โดยกิจการที่กระทำนั้นเป็นกิจการขนส่งระหว่างประเทศ
ซึ่งไม่อาจคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิสำหรับการประกอบกิจการดังกล่าวในประเทศไทยได้โดยง่าย จึงมีกฎหมายกำหนดให้กิจการดังกล่าวไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ หากแต่ให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ จึงขอนำมาเป็นประเด็น ปุจฉา-วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา ในทางภาษีอากรจัดแบ่งประเภทการขนส่งระหว่างประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ หรือกิจการที่ดำเนินเป็นการค้าหรือหากำไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในประเทศไทยอย่างไร
วิสัชนา การประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในกรณีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งใดทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ รวมทั้งโดยทางท่อ อาจแบ่งประเภทการขนส่งเป็น 2 ประเภทคือ
1.การขนส่งคนโดยสาร 2.การขนของ หรือสัมภาระสิ่งของ
ปุจฉา มีกำหนดเกี่ยวกับเงินได้ที่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศอย่างไร วิสัชนา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในประเทศไทย ให้นำเงินได้แต่ละส่วนไปคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลดังนี้
1.สำหรับรายได้เฉพาะที่ได้จากการประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ ให้คำนวณภาษีเงินได้จากยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ ในอัตราดังต่อไปนี้
(1) กรณีรับขนคนโดยสารให้เสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 3 ของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียมหรือประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในประเทศไทยก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องจากการรับขนคนโดยสารนั้น
(2) กรณีรับขนของ ให้เสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 3 ของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม หรือประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บไม่ว่าในหรือนอกประเทศก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องในการรับขนของออกจากประเทศไทยนั้น
2.สำหรับรายได้อย่างอื่นที่มิใช่รายได้จากกิจการขนส่งระหว่างประเทศ โดยหลักการทั่วไปต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ แต่ถ้ากิจการไม่สามารถคำนวณกำไรสุทธิได้ อาจยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายได้ก่อนหัก
การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศและมูลนิธิหรือสมาคม 324 รายจ่ายใดๆ ของรอบระยะเวลาบัญชี และยังต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยอีกด้วย
ปุจฉา มีข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกิจการขนส่งระหว่างประเทศอย่างไร วิสัชนา วิธีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศมีดังนี้
1.การเสียภาษีโดยถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย กรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นจ่ายค่าโดยสาร หรือค่าระวาง ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องถูกหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดเงินได้ (มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร)
2.การเสียภาษีโดยการยื่นรายการประจำรอบระยะเวลาบัญชี
เมื่อสิ้นระยะเวลาบัญชี บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องนำรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ จากการรับขนส่งระหว่างประเทศมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.52 ภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี พร้อมทั้งแนบบัญชีรายรับก่อนหักรายจ่ายเกี่ยวกับค่าโดยสาร ค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดอันต้องเสียภาษีแทนบัญชีงบดุล บัญชีทำการและบัญชีกำไรขาดทุน (มาตรา 68 มาตรา 68 ทวิ และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร)
3.สำหรับรายได้อย่างอื่นที่มิใช่รายได้จากการขนส่งระหว่างประเทศ
โดยทั่วไปให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถคำนวณกำไรสุทธิได้ และได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมสรรพากรว่าไม่สามารถจะคำนวณกำไรสุทธิได้จริง และอนุญาตหรือสั่งให้ยื่นรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำรอบระยะเวลาบัญชีตามแบบ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี และภาษีเงินได้
นิติบุคคลครึ่งปีตามแบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี ในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ และต้องเสียภาษีเงินได้จากการจำหน่ายเงินกำไรไปต่างประเทศตามแบบ ภ.ง.ด.54 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากเดือนที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วย
ซึ่งไม่อาจคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิสำหรับการประกอบกิจการดังกล่าวในประเทศไทยได้โดยง่าย จึงมีกฎหมายกำหนดให้กิจการดังกล่าวไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ หากแต่ให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ จึงขอนำมาเป็นประเด็น ปุจฉา-วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา ในทางภาษีอากรจัดแบ่งประเภทการขนส่งระหว่างประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ หรือกิจการที่ดำเนินเป็นการค้าหรือหากำไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในประเทศไทยอย่างไร
วิสัชนา การประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในกรณีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งใดทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ รวมทั้งโดยทางท่อ อาจแบ่งประเภทการขนส่งเป็น 2 ประเภทคือ
1.การขนส่งคนโดยสาร 2.การขนของ หรือสัมภาระสิ่งของ
ปุจฉา มีกำหนดเกี่ยวกับเงินได้ที่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศอย่างไร วิสัชนา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศในประเทศไทย ให้นำเงินได้แต่ละส่วนไปคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลดังนี้
1.สำหรับรายได้เฉพาะที่ได้จากการประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ ให้คำนวณภาษีเงินได้จากยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ ในอัตราดังต่อไปนี้
(1) กรณีรับขนคนโดยสารให้เสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 3 ของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียมหรือประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในประเทศไทยก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องจากการรับขนคนโดยสารนั้น
(2) กรณีรับขนของ ให้เสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 3 ของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม หรือประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บไม่ว่าในหรือนอกประเทศก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องในการรับขนของออกจากประเทศไทยนั้น
2.สำหรับรายได้อย่างอื่นที่มิใช่รายได้จากกิจการขนส่งระหว่างประเทศ โดยหลักการทั่วไปต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ แต่ถ้ากิจการไม่สามารถคำนวณกำไรสุทธิได้ อาจยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายได้ก่อนหัก
การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศและมูลนิธิหรือสมาคม 324 รายจ่ายใดๆ ของรอบระยะเวลาบัญชี และยังต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยอีกด้วย
ปุจฉา มีข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกิจการขนส่งระหว่างประเทศอย่างไร วิสัชนา วิธีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการขนส่งระหว่างประเทศมีดังนี้
1.การเสียภาษีโดยถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย กรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นจ่ายค่าโดยสาร หรือค่าระวาง ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องถูกหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดเงินได้ (มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร)
2.การเสียภาษีโดยการยื่นรายการประจำรอบระยะเวลาบัญชี
เมื่อสิ้นระยะเวลาบัญชี บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องนำรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ จากการรับขนส่งระหว่างประเทศมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.52 ภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี พร้อมทั้งแนบบัญชีรายรับก่อนหักรายจ่ายเกี่ยวกับค่าโดยสาร ค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดอันต้องเสียภาษีแทนบัญชีงบดุล บัญชีทำการและบัญชีกำไรขาดทุน (มาตรา 68 มาตรา 68 ทวิ และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร)
3.สำหรับรายได้อย่างอื่นที่มิใช่รายได้จากการขนส่งระหว่างประเทศ
โดยทั่วไปให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถคำนวณกำไรสุทธิได้ และได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมสรรพากรว่าไม่สามารถจะคำนวณกำไรสุทธิได้จริง และอนุญาตหรือสั่งให้ยื่นรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำรอบระยะเวลาบัญชีตามแบบ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี และภาษีเงินได้
นิติบุคคลครึ่งปีตามแบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี ในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ และต้องเสียภาษีเงินได้จากการจำหน่ายเงินกำไรไปต่างประเทศตามแบบ ภ.ง.ด.54 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากเดือนที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์ไขปัญหาภาษี วันที่ 14 กันยายน 2548
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น