12 ธันวาคม 2549

คำชี้แจงเกี่ยวกับ LTF

คำชี้แจง
ตามที่หนังสือพิมพ์รายวัน ข่าวหุ้น ฉบับลงวันที่ 6 ธันวาคม 2549 ลงข่าวพาดหัวว่า “คลังปิดฉาก LTF เลิกยกเว้นภาษี” โดยเนื้อข่าวกล่าวว่า “ตั้งแต่กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป LTF จะไม่สามารถขอตั้งกองใหม่ต่อไปได้อีก ซึ่งรวมทั้งสิทธิลดหย่อนทางภาษีก็จะหมดไปด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว ว่าจะไม่ต่อมาตรการลดหย่อนภาษีให้อีก” นั้น
สมาคมบริษัทจัดการลงทุนได้สอบถามไปยังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)แล้ว ได้รับการยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข สิทธิประโยชน์ทางภาษี และกำหนดระยะเวลาของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ยังคงเป็นไปตามกฎกระทรวง ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร และประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2547 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกแต่ประการใดทั้งสิ้น
1. กองทุนรวม LTF จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบัน(กองทุนรวม) ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนแบบเก็งกำไรรายวันของผู้ลงทุนรายย่อย มาลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่มีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานขึ้นถึง 5 ปีปฏิทิน
2. ประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ สน. 23/2547 กำหนดให้บริษัทจัดการสามารถจัดตั้งกองทุนและจดทะเบียนได้ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ได้รับทราบกันมา 3 ปีแล้ว โดยเพียง ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2549 ทุกบริษัทจัดการ (18 บลจ.) มีการจัดตั้งกองทุนรวม LTF รวมกันทั้งสิ้น 32 กองทุน และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 20,106 ล้านบาท
3. กองทุนรวม LTF ที่จัดตั้ง ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 10 ปี นั่นหมายความว่า กองทุนรวม LTF ที่มีการจัดตั้งและจดทะเบียนช้าที่สุดตามข้อ 2 จะมีอายุกองทุนไม่น้อยกว่าปี 2559
4. ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร กำหนดให้เงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และไม่เกิน 300,000 บาท ถือต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งไม่มีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาสิ้นสุดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าว
5. ในการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกรมสรรพากร สำนักงาน ก.ล.ต. บริษัทจัดการ และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจร่วมกัน และเข้าใจตรงกันว่า โครงการการจัดตั้งกองทุนรวม LTF เป็นมาตรการชั่วคราว ควรมีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด จึงเห็นพ้องให้สมาคมเป็นผู้ออกประกาศที่ สจก.ร. 2/2547 เรื่อง การจัดทำเอกสารเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. และกรมสรรพากร โดยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับเงื่อนไขการลงทุนที่ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ... “ต้องเป็นเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในช่วงระยะเวลาไม่เกินปี พ.ศ. 2559 เท่านั้น”
สรุปคือ บริษัทจัดการจัดตั้งและจดทะเบียนกองทุนรวม LTF ใหม่ๆ เพิ่มได้อีกจนถึงมิถุนายน 2550 และขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF ที่จัดตั้งไว้แล้วนั้นได้เรื่อยไป ส่วนผู้ลงทุนสามารถซื้อกองทุนรวม LTF ใดๆ กับบลจ. ใดก็ได้ และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขเดิมทุกปี จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2559 และผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในช่วงปีสุดท้าย(2559) ต้องถือหน่วยลงทุนนั้นต่อเนื่องไปอีก 5 ปีปฏิทินจึงจะถือว่าปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข
นายวีรโชติ จิรบวรพงศา
เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
วันที่ 7 ธันวาคม 2549

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก